วันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2556

วิธีการดูแลและเลี้ยงหนูแฮมเตอร์พันธุ์วินเทอร์ไวท์


วิธีการเลี้ยงหนูแฮมเตอร์
อาหารหลักที่ควรให้แฮมสเตอร์ คือ ธัญพืชโดยจะโปรยอาหารลงบนพื้นก็ได้เพราะแฮมสเตอร์ไม่มีนิสัยชอบก้มกิน มันจะชอบหยิบอหารออกมากินนอกภาชนะมากกว่า โดยใช้เท้าหน้าจับอาหารกิน แต่การใช้ภาชนะมีข้อดี คือจะทำให้เราได้รู้ว่ามันเอาอาหารออกไปกิน มากน้อยแค่ไหน ถ้ามันป่วยเราก็รู้ได้ นอกจากนี้ การใส่ภาชนะยังทำให้อาหารและขี้เลื่อยไม่ปะปนกันทำให้การเปลื่ยนขี้เลื่อยทำได้ง่ายโดยไม่ต้องทิ้งอาหารที่ปนกับขี้เลื่อย
สิ่งที่ควรทราบในการให้อาหารแฮมสเตอร์
1. อย่าให้ผักสด หรือผลไม้สดบ่อยๆหรือมากเกินไป การให้ผักสดควรให้แค่สัปดาห์ละครั้งเพราะอาจจะทำให้แฮมสเตอร์ท้องอืด หรือท้องเสียได้และหากมันกินไม่หมดควรจะเก็บทิ้งทันที
2. พยายามอย่าเปลื่ยนอาหารแบบทันทีทันใด ควรจะค่อยๆ เปลื่ยนอาหารโดยเอาอาหารเก่า ผสมกับอาหารใหม่ และเพิ่มอัตราส่วนอาหารใหม่ให้มากขึ้นเรื่อยๆ จนแทนที่อาหารเก่าในที่สุด อย่าเปลื่ยนแบบฉับพลัน
3. อาหารที่ควรหลีกเลื่ยงช็อคโกแลต โดยเฉพาะ Dark Chocolate เพราะมีสาร Theobromineซึ่งเป็นพิษต่อแฮมสเตอร์ได้
4. หลีกเลื่ยงผักผลไม้ ที่มีรสเปรี้ยวๆ เช่น มะนาว ส้ม สับปะรด เป็นต้น
5. เราอาจจะเสริมโปรตีนให้กับแฮมสเตอร์ได้ โดยการให้อาหารเม็ดของแมวหรืออาหารสุนัขที่เป็น บิสกิต ใส่ลงไปได้บ้างเล็กน้อย ซึ่งช่วยเสริมโปรตีนและยังช่วยลับฟันแฮมสเตอร์ไม่ให้ยาวเกินไปอีกด้วย
6. อาหารที่ไม่ปลอดภัยสำหรับแฮมสเตอร์ ได้แก่ หัวหอม มันฝรั่งดิบ กระเทียม น้ำอัดลม ลูกกวาด เป็นต้น
7. หลีกเลี่ยงอาหารที่แหลมคม หรือ เหนียวหนืด
8. ขนมหรืออาหารหวานๆเพราะแฮมสเตอร์แคระมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานได้
9. หลีกเลี่ยง อาหารเม็ดของกระต่าย เพราะบางชนิดใส่สารอาหารบางอย่างที่ช่วยกระตุ้น การเจริญเติบโตในกระต่าย แต่เป็นอันตรายต่อแฮมสเตอร์
10. หลีกเลี่ยงผักผลไม้ที่มีกลิ่นฉุน เช่น กระเพรา
อาหารเสริมอื่นๆ
ไข่หนูแฮมสเตอร์ชอบกินไข่ต้มที่ต้มสุก และไข่ต้มยังมีโปรตีนสูงอีกด้วยโดยเฉพาะในแม่แฮมสเตอร์ที่กำลังตั้งครรภ์ แต่ไม่ใช่ว่าให้ตลอด นานๆ ให้ทีถ้ากินไม่หมดต้องเก็บออกให้หมด
น้ำมันตับปลาน้ำมันตับปลาจะอุดมไปด้วยวิตามิน A และ D ใช้โดยการหยดเพียงไม่กี่หยดลงบนเมล็ดพืชก็ได้สามารถให้ได้เพียงสัปดาห์ละครั้ง อาจจะให้อาหารเม็ด สำหรับสุนัขที่มีส่วนผสมของน้ำมันตับปลาก็ได้
เนื้อเรื่องการให้เนื้อเป็นอาหารแก่แฮมสเตอร์นั้น เป็นเรื่องที่ผู้เลี้ยงทั้งหลายต่อต้านกันมานาน เพราะเชื่อว่า อาหารประเภทเนื้อจะกระตุ้น ให้แฮมสเตอร์ดุร้าย แต่ก็มีรายงานจากผู้เลี้ยงหลายๆ คนซึ่งให้เนื้อเป็นอาหารเป็นประจำว่าไม่มีการก้าวร้าวผิดปรกติแต่อย่างใด โกยอาจจะให้เป็น เนื้อวัวชิ้นเล็กๆ หรืออาจจะให้อาหารสุนัขที่บรรจุกระป๋องก็ได้
นมอาจจะให้ได้บ้าง โดยเฉพาะแม่หนูที่กำลังท้อง หรือ อาจจะให้เป็นนมอัดเม็ดก็ได้
อาหารนกผสม
สามารถจะให้อาหารเม็ด เช่น เมล็ดพืชสำหรับนกก็ได้โดยให้สัปดาห์ละครั้ง
การผสมพันธ์
แฮมสเตอร์เป็นสัตว์ที่มีอายุขัยสั้น มันจึงต้องแพร่พันธุ์เพื่อดำรงเผ่าพันธุ์ อย่าผสมข้ามพันธุ์แฮมสเตอร์หากท่านยังไม่พร้อม สำหรับชีวิตน้อน ๆ อีกหลาย ๆ ชีวิตที่กำลังจะเกิดขึ้นมา ท่านมีกรงให้พร้อมหรือไม่ท่านมีเวลาเพียงพอสำหรับมันหรือไม่โปรดศึกษาแฮมสเตอร์ให้เข้าใจก่อนผสมพันธุ์ เพื่ิอให้ลูกที่เกิดออกมาแข็งแรงและไม่มีข้อบกพร่องทางพันธุ์กรรมSYRAINSyrainเป็นแฮมสเตอร์ที่รักสันโดษ หากเราปล่อยให้ Syrainหลาย ๆ ตัวอยู่ด้วยกันมันมักจะกัดกัน ดังนั้นการจับคู่ Syrainเพื่อการผสมพันธุ์นั้น เราจำเป็นต้องระวังมาก ๆ
Syrainเพศเมีจะเป็นฮีทในทุกๆ 4 วัน ในการผสมพันธุ์ต้องเตรียมรังไว้ให้ก่อนโดยการใส่วัสดุปูพื้นใหม่ลงไป และหลังจากนั้นใส่วัสดุตัวผู้ลงไปก่อนและปล่อยให้ตัวผู้เดินไปมาและสร้างกลิ่นก่อนสั
พักหลังจากนั้นจึงค่อยใส่ตัวเมียลงไป หากตัวเมียต่อต้าน ไม่ยอมรับการผสมพันธุ์โดยการจู่โจมหรือการเข้าทำร้ายตัวผู้ ให้รีบแยกตัวตัวเมียออกก่อนที่จะมีตัวใดได้รับบาดเจ็บ ทั้งนี้หากแฮมสเตอร์ตัวเมียไม่ได้เป็นฮีท มันก็อาจจะไม่ยอมรับการผสมจากตัวผู้และอาจจะทำร้ายตัวผู้ได้หลังจากนั้นอีก 2-3 วันให้ทดลองใหม่อีกครั้ง หากแฮมสเตอร์ตัวเมียเมื่อปล่อยลงไปแล้วยืนอยู่นิ่ง ๆ และเหยียดขาตรง ยกหางชี้ขึ้นแสดงว่าตัวเมียยอมรับการผสมพันธุ์ หลังจากนั้นปล่อยให้แฮมสเตอร์ผสมพันธุ์กันประมาณ 20 นาทีและแยกแฮมสเตอร์ออกจากกัน เพราะหากปล่อยตัวผู้ไว้กับตัวเมียนานเกินไป ตัวเมียอาจจะตัดสินใจกำจัด หรือทำร้ายตัวผู้ได้ หลังจากนั้น 16-18 วันหากผสมติด เราจะได้ลูกแฮมสเตอร์สีชมพูอยู่ในกรง
การเลือกซื้อหนู

ควรเลือกซื้อแฮมสเตอร์ในช่วงเวลาเย็น ๆ เพราะแฮมสเตอร์จะนอนในเวลากลางวันจะงัวเงีย ทำให้ดูยาก เวลาป่วยหรือไม แต่ถ้าเป็นช่วงเวลาตอนเย็น มันจะคึกคักทำให้ดราเลือกได้ง่ายกว่า และเปรียบเทียบได้ง่ายขึ้นระหว่างตัวที่ซึม เพราะป่วยและตัวที่ไม่ป่วยเลี้ยงหลายตัวได้หรือไม่อาจจะเลี้ยงแฮมสเตอร์มากกว่า 1 ตัวในกรงเดียวกันได้ แต่ขึ้ยอยู่กับพันธุ์ของแฮมสเตอร์ด้วยถ้าเป็นแฮสเตอร์แคระแล้วหล่ะก็ มันเป็นสัตว์สังคมพอสมควรสามารถจะเลี้ยงด้วยกันได้หากเลี้ยงไว้ด้วยกันตั้งแต่เล็ก มักไม่ค่อยมีปัญหาทะเลาะกันแต่ไม่ควรเลี้ยงแฮมสเตอร์ต่างสายพันธุ์ไว้ด้วยกัน เพราะนิสัยจะแตต่างกันจะทำให้มัเครียดและอาจจะกัดกันจนตายได้ หรือเกิดปัญหาจาการผสมข้ามพันธุ์อย่าใส่ถุงกระดาษกลับบ้าน ถ้าต้องการเดินทางนาน ๆ เวลาที่เราซื้อแล้ว ร้านขายสัตว์เลี้ยงอาจะเอาแฮมสเตอร์ใส่กล่องหรือถุงกระดาษนำกลับบ้่าน แต่ถ้าเราต้องใช้เวลาเดินทางนานแฮสเตอร์อาจจะแทะทะลุถุงกระดาษออกมาและหลบหนีได้ เราจะขอให้ผู้ขายเปลื่ยนจากถุงกระดาษมาใส่ภาชนะพลาสติกแทนควรจะเลือกแฮมสเตอร์ที่สุขภาพดีแฮมสเตอร์ควรจะสะอาด ขนสะอาด ไม่มีอุจจาระเปื้อนหรือเหม็นผิดปรกติ และไม่ผอมผิดปรกติไม่ซึมไม่มีบาทแผลทั้งตัวและนิ้วเท้าหูต้องสะอาดท้งด้านในและด้านนอก ตาต้องสดใสและสะอาดควรจะเลือกแฮมสเตอร์ที่อายุระหว่าง 4-7 สัปดาห์ เพราะเชื่องง่ายถ้าเราเลี้ยงตั้งแต่เล็กๆ เพศไหนก็ได้ นิสัยไม่แตกต่างกันมาก

การเจริญเติบโตของหนูแฮมเตอร์
หนูแฮมสเตอร์สามารถผสมพันธุ์ได้ตลอดปีและอาจลดลงในช่วงฤดูหนาว หนูแฮมสเตอร์แคระจะเริ่ม สืบพันธุ์ได้ เมื่อมีอายุ 2-3 เดือน ตัวเมียที่เป็นสัดจะยกหางสูงและทำหลังโก่ง มันใช้เวลาตั้งครรภ์ประมาณ 18-21 วัน ก่อนคลอดแม่จะทำการสร้างรังคลอดลูกที่เกิดในแต่ละครอกโดยเฉลี่ยจะมีจำนวน 4-6 ตัว แต่อาจมีมากถึง 14 ตัว ลูกหนูจะลืมตาได้เมื่อมีอายุ 5 วัน ขนจะเริ่มขึ้นภายใน 7 วัน และจะหย่านมเมื่อ อายุ 20-25 วัน บางครั้งแม่อาจจะซ่อนลูกไว้ที่กระพุ้งแก้มเมื่อถูกรบกวน พฤติกรรมการกินลูกตัวเอง อาจเกิดขึ้นได้ในการเลี้ยงลูกครอกแรก ดังนั้นในช่วง 10 วันแรกหลังการคลอดไม่ควรไปรบกวนและ การสัมผัสตัวลูกหนูในช่วงนี้อาจทำให้มันติดกลิ่นแปลกปลอมอาจทำให้ลูกหนูถูกแม่กินได้ ในช่วงนี้ สามารถให้พ่อหนูอยู่ร่วมกับครอบครัวได้เพราะพ่อหนูจะช่วยดูแลเลี้ยงลูกได้ด้วย การจับคู่หนูแฮมสเตอร์แคระที่ไม่ได้โตมาด้วยกันอาจทำให้มันต่อสู้กันได้ ถ้ามันต่อสู้กันรุนแรงมาก ควรแยกหนูออกจากกันก่อนมิฉะนั้นตัวเมียอาจกัดตัวผู้ถึงตายได้ วิธีหนึ่งที่ควรปฏิบัติเมื่อเริ่มจับคู่คือ ควรเปลี่ยนกรงใหม่หรือทำความสะอาดกรงและย้ายอุปกรณ์ในกรงเก่าให้มันรู้สึกว่าไม่ใช่กรงของมัน หลังจากนั้นให้ทั้งคู่ทำความรู้จักกันนอกกรงก่อน และค่อยเอาใส่กรงใหม่โดยให้ตัวผู้เข้าไปก่อนเพราะ ตัวผู้จะมีความเป็นสุภาพบุรุษและมีอาการหวงบ้านน้อยกว่าตัวเมีย ถ้ามันยังต่อสู้กันอยู่ควรแยก ออกจากกันแล้วค่อยพามาเจอกันใหม่สม่ำเสมอจนมันคุ้นเคยกัน เราอาจวางกรงให้อยู่ใกล้กันเพื่อ ให้มันคุ้นเคยกับกลิ่น โดยปกติแล้วควรเลือกตัวผู้ที่มีอายุมากกว่าหรือมีขนาดใหญ่กว่าตัวเมีย